อะไรคือสาเหตุการหายตัวไปอย่างลึกลับของนักแสดงหญิง Marie Empress ดาราดังจากยุคภาพยนตร์เงียบ
Marie Empress จาก The Moving Picture World vol. 30, 23 ธันวาคม 2459
แมรี แอน ลูอิซา เทย์เลอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ Marie Empress เกิดเมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2427 ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ มารีมีงานยุ่งในฐานะนักแสดง นักร้อง นักเต้น และผู้เลียนแบบชายที่ประสบความสำเร็จ และได้รับชื่อเสียงในฐานะนักแสดงตลกในอังกฤษ
เธอเชี่ยวชาญในการเล่นบทหญิงร้ายหรือตัวละครปะติดปะต่อซึ่งนำไปสู่ความสับสนเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเธอในสื่อ มารีเป็นบุคคลสาธารณะที่สร้างความสับสนด้วยข้อกล่าวหาว่าสงสัยว่าใช้ยา
ตลอดจนรอยแผลเป็นบนใบหน้าที่อธิบายไม่ได้ ซึ่งซ่อนไว้อย่างน่าเชื่อด้วยการแต่งหน้าบนเวที ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับชีวิตของเธอนอกเหนือไปจากการทำงานในภาพยนตร์และละคร
แต่ชื่อและใบหน้าของเธอเป็นที่จดจำในหมู่สาธารณชนชาวอังกฤษ และหากสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปจากเดิม เธอน่าจะประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในฐานะนักแสดง
อย่างไรก็ตาม โชคชะตามีแผนอื่นสำหรับMarie Empress เมื่อในคืนเดือนตุลาคมที่อากาศหนาวเย็นในปี 1919 พเธอได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยระหว่างการเดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก
เดินทางไปอเมริกากับ SS Orduña
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2462 มารีวัย 35 ปีเดินทางโดยลำพังบนเรือ SS Orduña เป็นเวลา 11 วันจากลิเวอร์พูลไปยังนครนิวยอร์กโดยหยุดพักเพียงแห่งเดียว
ที่เมืองแฮลิแฟกซ์ รัฐโนวาสโกเชีย มารีเป็นหนึ่งในผู้โดยสารและลูกเรือกว่าพันคนบนเรือ คนดังที่มีชื่อเสียงผู้อพยพและชาวบ้านทั่วไปที่เดินทางระหว่างสองทวีป
เธอพักอยู่ในห้องโดยสารชั้นหนึ่ง ห้อง Stateroom หมายเลข 480 ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น B ของ Orduña มีข้อสังเกตว่าห้องของเธอมีช่องหน้าต่างขนาด 14 นิ้วที่ล็อคอยู่ช่องเดียวโดยไม่มีห้องแสดงภายนอก – รายละเอียดที่จะมีความสำคัญในภายหลัง
0SS Orduña (ผ่านNaval History and Heritage Command )
ระหว่างที่เธออยู่ คนเดียวที่ Marie พูดด้วยอย่างจริงจังคือแอร์โฮสเตสที่เธอพบเป็นครั้งแรกเมื่อขึ้นเครื่อง
ผู้ตรวจสอบฟิลาเดลเฟียพูดคุยกับผู้หญิงในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2462 และถามเกี่ยวกับเวลาที่เธอใช้กับมารีระหว่างการเดินทางไปอเมริกา
ผู้หญิงคนนี้เรียกเพียงว่า 'แอร์โฮสเตส' พูดถึงมารีในเชิงบวก เดิมทีเธอคิดว่านักแสดงหญิงเป็นแม่หม้ายสงครามเนื่องจากเธอสวมชุดสีดำพร้อมผ้าคลุมสีดำผืนใหญ่ เมื่อเธอถามว่า Marie เป็นนางสาวหรือนาง Marie ตอบว่าเธอ "ไม่เคยแต่งงาน แต่ [เธอ] อาจจะเร็ว ๆ นี้" ข้อความแปลก ๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้เธอเคยแต่งงานกับหมอฟันวิลเลียม ฮอร์ตันในปี 2445 ก่อนจะแยกทางกันในปี 2449 และหย่าร้างในปี 2461
มารีบอกแอร์โฮสเตสว่าเธอไม่แน่ใจว่าจะอยู่ที่ไหนเมื่อพวกเขามาถึงนิวยอร์กเพราะเธอไม่มี เพื่อนๆคนไหนอยู่ในพื้นที่ ก่อนหน้านี้ มารีเคยมีประสบการณ์ด้านลบบนเวทีในนิวยอร์ก
เมื่อเธอถูกโห่เพราะแสดงความรักใคร่กับนักเปียโนของเธอมากเกินไป นี่เป็นวิธีของเธอในการแสดงความสงสัยต่อแอร์โฮสเตสเกี่ยวกับแผนการกลับเมืองของเธอหรือไม่? แอร์โฮสเตสให้ความมั่นใจกับเธอว่ามีโรงแรมและแท็กซี่มากมายที่ยินดีพาเธอไปทุกที่ที่เธอต้องการ
ดังนั้นเธอจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เมื่อนึกถึงช่วงเวลาของเธอกับมารี แอร์โฮสเตสบอกกับฟิลาเดลเฟียอินไควเรอร์ว่า:
เธอดูร่าเริงเพียงพอ เธอจะทำเรื่องตลกเล็กน้อยในขณะที่ฉันเย็บรอยขาดในเสื้อผ้าของเธอ เราหัวเราะด้วยกันหลายครั้งเกี่ยวกับสิ่งที่ฉันลืมไปแล้ว เธอดูเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่กำลังข้ามถนน ยกเว้นว่าเธอจะดูดีกว่าและมีอารมณ์ขันดีกว่า
พนักงานเสิร์ฟของ Marie Empress ใน The Philadelphia Inquirer (16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2462)
แอร์โฮสเตสยังกล่าวถึงรอยแผลเป็นบนใบหน้าของมารีที่ไหลไปตามข้างจมูกของเธอ เธอบอกว่ามารีบอกเธอว่าแผลเป็นนั้นมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ และเธอวางแผนที่จะไปโรงพยาบาลในขณะที่อยู่ในนิวยอร์กเพื่อรับการรักษา
นักแสดงหญิงมีความลึกลับรอบตัวเธอและจุดประสงค์ที่แท้จริงของการเดินทางของเธอก็ไม่ชัดเจนนัก
เธอกำลังเดินทางไปทำงาน? หรืออาจจะเป็นเพราะความรักเหมือนที่เธอบอกเป็นนัยกับแอร์โฮสเตสเมื่อถามมารีเรื่องการแต่งงาน? น่าเสียดายที่ Marie จะทิ้งคำถามไว้มากกว่านี้เมื่อเธอหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจาก Orduña ออกจาก Halifax ได้ไม่นาน
ในคืนที่เธอหายตัวไป แอร์โฮสเตสเข้าไปในห้องรับรองหมายเลข 480 เวลา 18.30 น. เพื่อล้างจานอาหารค่ำของมารี Marie สั่งให้เธอนำแซนวิชไปที่ห้องของเธอในอีก 3 ชั่วโมงต่อมา เวลา 21:30 น.
เมื่อแอร์โฮสเตสกลับมาพร้อมแซนด์วิชตามเวลาที่ตกลง เธอเคาะแล้วไม่ได้รับคำตอบ เมื่อเข้าไปข้างใน แอร์โฮสเตสพบว่าห้องโดยสารของมารีว่างเปล่า
เธอจึงทิ้งแซนด์วิชไว้ให้มารีกินเมื่อเธอกลับจาก ซึ่งเธอคิดว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งของเรือ แอร์โฮสเตสรู้เพียงเล็กน้อยว่าเธอจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เห็นนักแสดงสาวคนนี้ยังมีชีวิตอยู่
เกิดอะไรขึ้นกับ Marie Empress?
Marie Empress หลานสาวผู้ยิ่งใหญ่ของ Edmund Kean โศกนาฏกรรมผู้มีชื่อเสียง หายตัวไปจากเรือเดินสมุทร “Orduna” ที่ไม่เคยได้ยินและมองไม่เห็นได้อย่างไร? อะไรทำให้เธอหลงลืมจากดาดฟ้าที่สว่างไสวสู่คลื่นสีดำที่เย็นยะเยือก?
'ความลึกลับของห้องหมายเลข 480' จาก The Philadelphia Inquirer (16 พฤศจิกายน 1919)
ในเช้าวันที่ 27 ตุลาคม แอร์โฮสเตสสาวได้เคาะประตูห้องของมารีและถูกพบอีกครั้งด้วยความเงียบ
เธอเข้าไปในห้องโดยสารของเธอและต้องตกใจเมื่อพบแซนด์วิชจากคืนก่อนยังไม่ได้กินและเตียงก็นอนไม่มีการนอนหลับ
อันที่จริง ห้องรับรองหมายเลข 480 ทั้งหมดนั้นเหมือนกับเมื่อคืนก่อนทุกประการ มีการค้นหาเพื่อค้นหานักแสดงหญิงที่หายไป แต่ไม่พบร่องรอยของเธอบน Orduña แต่เธอจะไปอยู่ที่ไหน?
ช่องหน้าต่างที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ในห้องของเธอถูกกล่าวหาว่าเล็กเกินกว่าที่เธอจะบีบผ่านได้ และเพื่อให้เธอขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือได้ มารีจะต้องผ่านร้านเสริมสวยและทางเดินหลายแห่งที่ปกติจะมีคนพลุกพล่านในตอนกลางคืน แน่นอนว่าต้องมีคนเห็นมารี นักแสดงหญิงยอดนิยมและจำง่ายเมื่อเธอเดินผ่านไป
สาเหตุการหายตัวลึกลับของ Marie Empress สันนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม มีข้อโต้แย้งหลายประการที่ขัดแย้งกับเรื่องนี้
รวมทั้งดาดฟ้าที่มีแสงสว่างเพียงพอและมีสจ๊วตและเจ้าหน้าที่อาศัยอยู่มากมายในตอนเย็นและกลางคืน จะมีใครบ้างที่ไม่เคยเห็นมารีเดินคนเดียวบนดาดฟ้าก่อนจะทิ้งตัวข้ามรางรถไฟลงทะเล? ในโลกยุคก่อนกล้องวงจรปิด เป็นไปไม่ได้ที่จะพูด จำนวนคนบนเครื่องรวมถึงสถานะคนดังของ Marie ทำให้เธอถูกกล่าวหาว่าฆ่าตัวตายยากที่จะเข้าใจ ถ้าเธอฆ่าตัวตายจริงๆ มารีก็ 'โชคดี' ที่ออกจากเรือไปโดยไม่มีใครเห็น หรือมีคนเห็นและเลือกที่จะเก็บเรือไว้คนเดียว
อีกทฤษฎีหนึ่งคือนักแสดงหญิงใช้ 'การหายตัวไป' ของเธอเพื่อประชาสัมพันธ์ Marie เป็นนักปลอมตัวเป็นผู้ชายที่มีพรสวรรค์ แล้วอะไรล่ะที่ขัดขวางไม่ให้เธอแอบออกจากเรือโดยแต่งตัวเป็นคนที่แตกต่างจากตัวเองโดยสิ้นเชิง? อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยเหตุผลสองประการ – ทรัพย์สินของ Marie ตามคำบอกเล่าของแอร์โฮสเตส ไม่ถูกแตะต้องในเช้าวันที่เธอถูกรายงานว่าหายไป และการกลับมาครั้งยิ่งใหญ่ของ Marie สู่สายตาสาธารณะชนไม่เคยเกิดขึ้น ในความเป็นจริงไม่มีใครรายงานว่าได้พบเธออีก
ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2462 กว่าหนึ่งเดือนหลังจากการหายตัวไปของเธอ หนังสือพิมพ์เดลีมิเรอร์ ในลอนดอน ได้เขียนบทความสั้น ๆ สองย่อหน้าโดยพาดหัวด้วยคำถามง่าย ๆ แต่น่าฉงนใจว่า ' มารีเอมเพรสอยู่ที่ไหน? '. ความจริงก็คือไม่มีใครรู้หรืออย่างน้อยก็ไม่มีใครแจ้งข้อมูลใดๆ เป็นที่ชัดเจนว่า ณ จุดนั้น Marie นั้นตายไปแล้วหรือไม่ต้องการให้พบ แม้ว่าอดีตจะดูเหมือนเป็นไปได้มากกว่าก็ตาม เดลี่มิร์เรอร์ยังรายงานพัฒนาการใหม่ในเรื่องนี้ด้วยว่า กระโปรงของพระนางมารีพร้อมของใช้ส่วนตัวของเธอถูกเจ้าหน้าที่อเมริกันยึดไปในนิวยอร์กหลังจากที่พวกมันไม่มีผู้อ้างสิทธิ์ ถ้า Marie ยังมีชีวิตอยู่ สันนิษฐานว่าเธอคงไปหาตำรวจเพื่อทวงคืนทรัพย์สินของเธอ แต่เธอไม่เคยทำ
การออกจากโลกนี้ของ Marie ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการฆ่าตัวตาย ได้ทิ้งคำถามมากมายเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวของนักแสดงสาว เธอดิ้นรนที่จะอยู่ในความสนใจด้วยอาการป่วยทางจิตที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและทำให้พิการหรือไม่? มีบางอย่างเกิดขึ้นที่ทำให้เธอรู้สึกว่าชีวิตไม่มีค่าควรอยู่อีกต่อไปหรือไม่? เธอขึ้นเรือ Orduña ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่มีวันไปถึงอเมริกาได้จริงหรือ?
หลักฐานที่พบใน Stateroom No. 480 ระบุว่า Marie ตั้งใจจริงที่จะมาถึงนิวยอร์กเมื่อออกจาก Liverpool ในกระเป๋าเดินทางของเธอ Marie มีรูปถ่ายของตัวเองหลายชุดที่พร้อมจะมอบให้กับสื่อมวลชนในนิวยอร์ก และเมื่อไปถึงแฮลิแฟกซ์ มารีได้ส่งเคเบิลไปยังโรงแรมที่เธอเคยพักอย่างเป็นทางการในนิวยอร์กโดยบอกว่า " มาถึงวันจันทร์ ได้โปรดมีห้องให้ฉัน” ดูเหมือนว่าแม้ในขณะที่ Orduña ออกจาก Halifax แต่ Marie ก็วางแผนที่จะมาถึงนิวยอร์ก หรือว่าเธอแค่ปกปิดเส้นทางไปสู่การฆ่าตัวตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้? ความอัปยศอดสูของเธอก่อนหน้านี้จากการถูกโห่บนเวทีในนิวยอร์กจู่ๆ ทำให้เธอรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เดินทางกลับอเมริกาหรือไม่? หรือนี่คือข้อพิสูจน์ว่ามีสิ่งชั่วร้ายเกิดขึ้นกับผู้โดยสารคนอื่นบนเครื่อง? หากการตายของมารีเป็นการฆ่าตัวตาย ปีศาจในตัวของนักแสดงก็ควบคุมไว้อย่างดี ทำให้คาดเดาว่าทำไมเธอถึงทำสิ่งนั้นจนแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุได้ หากเป็นการฆาตกรรม ก็ไม่มีหลักฐานหรือทฤษฎีใดที่สามารถฆ่ามารี นักแสดงหญิงที่เป็นที่รู้จัก และทิ้งศพของเธอโดยไม่มีใครเห็นบนเรือที่พลุกพล่าน ไม่มีสัญญาณของการต่อสู้ ไม่มีเสียงกรีดร้อง ไม่มีสิ่งใดที่บ่งชี้ว่าการตายของเธออยู่ในมือของผู้โดยสาร Orduña คนอื่น
ฉันชอบคิดว่า Marie แอบออกจาก Orduña ทั้งที่ยังมีชีวิตอยู่และสบายดี แต่ไม่ใช่เพื่อการแสดงความสามารถทางการประชาสัมพันธ์ บางทีเธออาจพบรัก แต่งงานใหม่ และใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุขในอเมริกา ห่างไกลจากสิ่งที่อาจรบกวนจิตใจเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นในเวอร์ชั่นเคลือบน้ำตาลที่ไม่น่าเป็นไปได้ แต่น่าหดหู่ใจน้อยกว่าเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในคืนวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2462 มาก คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า 'มารี จักรพรรดินีอยู่ที่ไหน' อาจจะเป็น '…
ไม่มีใครรู้' เสมอ แม้ว่าชีวิตที่แสนสั้นแต่น่าหลงใหลของเธอจะจบลงอย่างโดดเดี่ยวและห่างไกลจากบ้านในผืนน้ำอันมืดมิดของมหาสมุทรแอตแลนติก
